สภาพสังคมของประเทศสิงคโปร์

สภาพสังคมและแนวโน้มวัฒนธรรมโดยภาพรวม เชื้อชาติที่ผสมผสานอย่างลงตัวและคุณภาพชีวิตที่ดีสิงคโปร์ได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีคนจากหลากหลายเชื้อชาติ เช่น จีน มาเลย์ อินเดีย และลูกครึ่งระหว่างชาวเอเชียและชาวยุโรปมาอยู่ร่วมกันอย่างสงบและไม่มีปัญหาขัดแย้งเรื่องชนชาติระหว่างกัน โดยที่ทุกเชื้อชาติยังดำรงไว้ซึ่งวิถีการดำเนินชีวิต ประเพณีและวัฒนธรรมของตนไว้อย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ ในสิงคโปร์ยังมีผู้เชี่ยวชาญจากต่างชาติมากถึง 90,000 คน ที่เข้ามาอยู่อาศัยและทำงาน ซึ่งคนเหล่านี้ได้เข้ามาเผยแพร่ขนบธรรมเนียมและแลกเปลี่ยนแนวความคิดกับคนในประเทศ นับเป็นการเพิ่มสีสันให้กับชาวสิงคโปร์นักเรียนที่เข้ามาศึกษาในสิงคโปร์สามารถมั่นใจในมาตรฐานการดำรงชีวิตของสิงคโปร์ได้ ดูได้จากผลการสำรวจของหนังสือ The Economist ฉบับเดือนมีนาคม ค.ศ. 2002 กล่าวว่าคุณภาพชีวิตของชาวสิงคโปร์เทียบเท่ากับชาวเมืองลอนดอนและชาวเมืองนิวยอร์ค โดยได้นำ 39 ปัจจัย เช่น ความมั่นคงทางการเมือง เสรีภาพของประชาชน มลภาวะทางอากาศ คุณภาพชีวิต โรงเรียน ร้านอาหารและโรงภาพยนตร์มาเป็นดัชนีวัดในการสำรวจครั้งนี้
ความปลอดภัยในปัจจุบันนี้นักท่องเที่ยวจากที่ต่างๆทั่วโลกมีความกังวลในเรื่องความปลอดภัยระหว่างเดินทางมากกว่าเมื่อก่อนมาก การท่องเที่ยวสิงคโปร์จึงต้องการให้นักท่องเที่ยวเหล่านั้นมั่นใจว่าสถานการณ์ในประเทศสิงคโปร์สงบสุขและมีเสถียรภาพรัฐบาลสิงคโปร์จะทำทุกอย่างเพื่อให้มั่นใจว่าสิงคโปร์จะมีความปลอดภัย โดยการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในสถานที่สำคัญๆ นอกจากนี้รัฐบาลยังมั่นใจว่าจะไม่มีความรุนแรงที่เกิดจากความแตกต่างทางเชื้อชาติหรือศาสนาในสิงคโปร์ และจะต่อต้านผู้ที่ใช้ความรุนแรงและผู้ก่อการร้ายให้ถึงที่สุด ตัวอย่างการปฏิบัติการที่รวดเร็วและตรงเป้าหมายของกรมการป้องกันประเทศของสิงคโปร์ หรือ Singapore Internal Security Department ได้แก่ การจับกุมผู้ก่อการร้าย 15 คน ในเดือนมกราคม 2002
การแต่งกายส่วนใหญ่เป็นแบบชาวตะวันตกโดยทั่วไปมีบางส่วนที่ยังคงแต่งกายตามเชื้อชาติ การแต่งกายสิงคโปร์เป็นประเทศเกาะเขตร้อนที่ตั้งอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร อากาศจึงเป็นแบบร้อนชื้นตลอดทั้งปี คุณสามารถเก็บเสื้อขนสัตว์ไว้ที่บ้านเลยแล้วแพ็คเสื้อผ้าสีสันสดใสสำหรับหน้าร้อนไปแทน เสื้อผ้าแบบสบายๆสามารถใส่ได้ทุกที่ทุกโอกาส แต่บางสถานที่เช่น ร้านอาหารและคลับอาจต้องแต่ตัวแบบเป็นทางการ ดังนั้นควรตรวจสอบกับสถานที่หรืองานนั้นๆก่อนสถานศึกษาบางแห่งอาจมีกฎระเบียบเกี่ยวกับการแต่งกาย เช่น ห้ามสวมกางเกงขาสั้นและรองเท้าแตะในห้องบรรยาย นักเรียนระดับประถม มัธยมและจูเนียร์คอลเลจจะสวมเครื่องแบบชุดนักเรียนสถานที่ในร่มส่วนใหญ่จะติดเครื่องปรับอากาศเพื่อคลายความร้อน ดังนั้นหากต้องอยู่ในที่แห่งนั้นนานๆอาจรู้สึกหนาว จึงควรเตรียมเสื้อไหมพรมอุ่นๆหรือแจ็กเกตไว้ด้วยการสูบบุหรี่สิงคโปร์ห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ เช่น รถโดยสารสาธารณะ พิพิธภัณฑ์ ห้องสมุด ลิฟท์ โรงละคร โรงภาพยนตร์ ร้านอาหารติดเครื่องปรับอากาศ ร้านเสริมสวย ซูเปอร์มาร์เก็ต ห้างสรรพสินค้า และสถานที่ราชการ หากฝ่าฝืนจะโดนปรับ 1,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ ทั้งนี้มีการอนุญาตให้สูบบุหรี่ในสถานที่ติดเครื่องปรับอากาศบางแห่ง เช่น ผับ ดิสโกเธค คาราโอเกะ และสถานบันเทิงยามราตรีการถ่มน้ำลายห้ามถ่มน้ำลายในที่สาธารณะการให้ทิปไม่จำเป็นต้องให้ทิป เนื่องจากโรงแรมและร้านอาหารส่วนใหญ่จะรวมค่าบริการ 10% ไว้ในใบเสร็จเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นการให้ทิปจึงไม่เป็นที่นิยมในสิงคโปร์และเป็นสิ่งต้องห้ามในบริเวณสนามบิน- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - สีประจำชาติสีแดง-ขาว สีแดง หมายถึงภราดรภาพและความเสมอภาคของมนุษย์โดยทั่วหน้า สีขาว หมายถึงความบริสุทธิ์และความดีงามที่แพร่หลายและคงอยู่ตลอดกาล- - - - - - - - - - - - - - - - - - - วันชาติ
วันชาติสิงคโปร์ ตรงกับวันที่ 9 สิงหาคม 1965 ของทุกปี เพื่อเป็นการรำลึกถึง ตัดสินใจที่จะแยกตัวออกจากสหพันธรัฐมาเลเซีย เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 1965 และประกาศตั้งชาติเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 1965 ท่ามกลางสถานการณ์การสู้รบที่แหลมคม ระหว่างคอมมิวนิสต์กับจักรวรรดินิยม - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - ตราแผ่นดิน
คำขวัญ: Majulah Singapara ("สิงคโปร์ จงเจริญ")- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - เพลงชาติและธงชาติธงชาติสิงคโปร์: เป็นธงสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 2 ส่วน ยาว 3 ส่วน ประกอบด้วยแถบสองสีแบ่งครึ่งกลางธง แถบสีแดงอยู่ด้านบน แถบสีขาวอยู่ด้านล่าง ที่มุมธงบนด้านคันธงมีรูปพระจันทร์เสี้ยว ถัดจากรูปดังกล่าวมีรูปดาวห้าแฉก 5 ดวง เรียงเป็นรูปห้าเหลี่ยมด้านเท่า รูปเหล่านี้เป็นสีขาว ธงนี้เริ่มใช้ในปี พ.ศ.2502 ซึ่งเป็นปีที่สิงค์โปร์ได้สิทธิปกครองตนเองจากจักรวรรดิอังกฤษ และถือเป็นธงชาติของรัฐเอกราชเมื่อสิงคโปร์ประกาศเอกราชในวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ.2508
ความหมาย: ที่สัญขององค์ประกอบต่างๆ ในธง อันได้แก่ สีแดง หมายถึงภราดรภาพและความเสมอภาคของมนุษย์โดยทั่วหน้า สีขาว หมายถึงความบริสุทธิ์และความดีงามที่แพร่หลายและคงอยู่ตลอดกาล รูปพระจันทร์เสี้ยว ซึ่งเป็นจันทร์เสี้ยวข้างขึ้น หมายถึงความเป็นชาติใหม่ที่ถือกำเนิดขึ้น ดาว 5 ดวง หมายถึงอุดมคติ 5 ประการของชาติ ได้แก่ ประชาธิปไตย สันติภาพ ความก้าวหน้า ความยุติธรรม และความเสมอภาค
ประวัติ: เพลงมาจูเลาะห์ สิงาปูราได้เขียนขึ้นในในช่วงการตื่นตัวในเรื่องแนวคิดชาตินิยมของชาวสิงค์โปร์ช่วง พ.ศ.2499-2500 โดยเอินจิก ซูบีร์ ได้ประพันธ์เพลงนี้ขึ้นโดยได้รับบันดาลใจจากคำว่า "มาจูลาห์ สิงาปูรา" ซึ่งหมายถึง "สิงค์โปร์จงเจริญ" เพลงนี้ได้บรรเลงครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2502 พร้อมกันกับธงของสิงคโปร์ และตราประจำรัฐ ณ ศาลาว่าการเมืองสิงค์โปร์ซิตี้ ในพิธีแต่งตั้งตั้งประมุขแห่งรัฐคนใหม่ คือ ยังดีเปอร์ตวนเนอการา เอินจิก ยูซุฟ บิน อิสฮาก ต่อมาเมื่อสิงคโปร์ได้รับเอกราชและออกจากสหพันธรัฐมลายาในปี พ.ศ.2508 เพลงมาจูลาห์ สิงาปูราก็ได้รับการรับรองให้เป็นเพลงชาติของประเทศสิงคโปร์ตราบเท่าทุก วันนี้
เนื้อร้องต้นฉบับภาษามลายู
MAJULAH SINGAPURA
Mari kita rakyat Singapura
Sama-sama menuju bahagia
Cita-cita kita yang mulia
Berjaya Singapura
Marilah kita bersatu
Dengan semangat yang baru
Semua kita berseru
Majulah Singapura
Majulah Singapura
คำแปล ภาษาไทย
สิงคโปร์จงเจริญ
มาเถิด เราชาวสิงคโปร์ทั้งหลาย
มาร่วมมุ่งหน้าสู่ความสุขร่วมกัน
ขอความปรารถนาอันทรงเกียรติขอเรานั้นจงดล
ให้ประเทศสิงคโปร์ประสบผลสำเร็จ
มาเถิด เรามาสามัคคีกัน
ในจิตวิญญาณดวงใหม่
เราผองจงตะโกนก้องว่า
สิงคโปร์จงเจริญ
สิงคโปร์จงเจริญ